กลิ่นปากป้องกันได้ ด้วย “โปรไบโอติก”
กลิ่นปากป้องกันได้ ด้วย “โปรไบโอติก”
กลิ่นปากป้องกันได้ ด้วย “โปรไบโอติก”
กลิ่นปาก ปัญหาสำคัญที่ทำลายความมั่นใจของใครหลายคน และส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง โดยอาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะภายในช่องปากซึ่งเป็นสาเหตุหลักมากกว่าร้อยละ 90 และการเสียสมดุลแบคทีเรียภายในช่องปากก็เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญนั้น
เพราะช่องปากเป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียมากมายหลายชนิด และแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดกลิ่นปากนั้น โดยส่วนมากเป็นแบคทีเรียที่สามารถผลิตสารประกอบกำมะถันระเหยได้ (volatile sulfer compounds, VSCs) ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้ส่วนมากเป็นแบคทีเรียที่ไม่พึ่งออกซิเจน สามารถพบได้ในร่องลึกปริทันต์หรือในคราบจุลินทรีย์บนลิ้น เมื่อมีการสะสมของแบคทีีเรียเหล่านี้อยู่มากนานวันเข้าจึงส่งผลทำให้เกิดกลิ่นปากรุนแรงขึ้น
การควบคุมจำนวนแบคทีเรียภายในช่องปากด้วยการทำความสะอาดช่องปาก ฟัน และลิ้น รวมไปถึงการใช้น้ำยาบ้วนปาก เป็นหนึ่งแนวทางในการกำจัดปัญหากลิ่นปากที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ด้วยวิธีการดังกล่าวไม่อาจทำให้ปัญหากลิ่นปากหายไปได้อย่างถาวร ทั้งยังต้องทำอย่างต่อเนื่องตลอดไปอีกด้วย
ปัจจุบันมีแนวคิดในการนำแบคทีเรียโปรไบโอติกเข้ามาใช้ในการรักษากลิ่นปาก โดยใช้หลักการแทนที่ของแบคทีเรียที่คาดว่าจะก่อให้เกิดกลิ่นปากด้วยแบคทีเรียที่ดี ซึ่งในที่นี้หมายถึงแบคทีเรียที่ไม่ผลิตสารประกอบระเหยที่ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยเป็นแบคทีเรียที่พบมากในคนปกติที่ไม่มีกลิ่นปาก
จากงานวิจัยพบว่าการใช้โปรไบโอติกในการรักษากลิ่นปากนั้นมีส่วนช่วยลดการเกิดกลิ่นปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ไม่สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปากได้ทุกชนิด แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นถือว่าน่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก
การดูแลทำความสะอาดช่องปากเพื่อจัดการปัญหากลิ่นปากเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ ต้องใช้โปรไบโอติกควบคู่ไปด้วยจึงจะสามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้ ซึ่งการรับประทานผลิตภัณฑ์โปรไบโอติก ร่วมกับการใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโปรไบโอติก จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์ที่สุดในปัจจุบัน
ด้วยความปรารถนาดี Interpharma Thailand
อ้างอิงข้อมูลจาก: บทความปริทัศน์ “จุลชีววิทยาของกลิ่นปาก” ผศ.รัชนี อัมพรอร่ามเวทย์