ปวดตับ โรคร้ายที่ไม่ควรมองข้าม
ปวดตับ โรคร้ายที่ไม่ควรมองข้าม
เวลาที่พูดกันเล่น ๆ ว่า “ปวดตับ” ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ พูดกันขำ ๆ ก็จริง แต่รู้หรือไม่ว่าอาการ “ปวดตับ” ที่ว่านั้นมีอยู่จริง และไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเสียด้วย!
อย่างที่รู้กันดีว่าตับนั้นเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่หลากหลายประการ เปรียบเสมือนโรงงานที่ทำหน้าที่ในการผลิตพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งยังเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการกำจัดของเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายอีกด้วย โดยการขับออกมาทางน้ำดีสู่ลำไส้ปนไปกับอุจจาระนั่นเอง
แน่นอนว่าตับนั้นก็ไม่ต่างจากอวัยวะอื่น ๆ ที่เมื่อทำงานหนักเกินไป ตับก็เริ่มป่วยได้เช่นเดียวกัน ทำให้เกิดอาการ “ปวดตับ” ขึ้นมาได้ เช่นเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมใด ๆ ที่ร่างกายไม่รู้จักหรือไม่เป็นมิตร ก็ทำให้มีอาการผิดปกติได้ สิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นเช่น แบคทีเรีย ไวรัส ยาหรือสารต่าง ๆ ที่ร่างกายรับประทานแล้วเหลือตกค้าง สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับ และทำให้เกิดโรคตับต่าง ๆ ได้
นอกจากนี้ อาการปวดตับยังอาจเกิดได้จากการที่เนื้อตับบางส่วนมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ กลานเป็นก้อนเนื้องอกดันผิวตับให้โป่งนูน ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดจุกแน่นในบริเวณใต้ชายโครงหรือลิ้นปี่ ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่มีโรคตับอักเสบเรื้อรังแฝงอยู่โดยที่ไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ มาก่อน หรืออาจมีอาการเพียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้เราเผลอมองข้ามไปเพราะคิดว่าไม่มีอะไรนั่นเอง
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าตับเริ่มปวดและควรไปหาหมอแล้ว? ลองสังเกตตัวเองง่าย ๆ ด้วย 4 สัญญาณดังต่อไปนี้
- มีอาการปวด จุก หรือแน่นบริเวณชายโครงด้านขวา ซึ่งเป็นที่อยู่ของตับ อาการปวดนี้อาจเกิดขึ้นได้จากตับอักเสบ หรือมีก้อนเนื้องอกเกิดขึ้นภายในตับ
- ดีซ่าน เกิดภาวะที่มีการคั่งของเม็ดสีน้ำดีที่สร้างมาจากตับ เกิดการสะสมในเนื้อเยื่อบริเวณต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้ผิวหนังและเยื่อตาขาวเปลี่ยนสีไปจนสังเกตได้ว่าตาและตัวเหลืองมากขึ้น นอกจากนี้น้ำดีส่วนเกินส่วนหนึ่งจะถูกขับออกทางปัสสาวะ เป็นสัญญาณบอกว่าตับเริ่มทำงานได้แย่ลงนั่นเอง
- อ่อนเพลียเรื้อรัง หมดแรงง่ายแต่ไม่ทราบสาเหตุ อาจเกิดจากภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดต่าง ๆ การดื่มสุราอย่างหนักหน่วง โรคอ้วน โรคไขมันพอกตับ รวมไปถึงการรับประทานยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรบางชนิด ทำให้ตับเกิดการอักเสบ
- เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ นี้อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าตับกำลังทำงานเสื่อมสมรรถภาพ ทำให้ร่างกายต้องดึงพลังงานสำรองจากที่ต่าง ๆ มาเผาผลาญ น้ำหนักตัวจึงลดลง
หากมีอาการข้างต้นนี้ อย่าได้นิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อตรวจร่างกายและทำการรักษา เพราะอาการปวดตับนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอย่างที่เราพูดเล่นกัน หากแต่เป็นโรคร้ายแรงที่ถ้าหากเกิดขึ้นแล้ว ตับของเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เพื่อให้เราห่างไกลจากอาการปวดตับ สิ่งสำคัญก็คือโภชนาการและการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สะอาด มีคุณค่าทางโภชนาการสูงในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อควบคุมน้ำหนักและลดพุง รวมถึงไม่รับประทานยาและสมุนไพรพร่ำเพรื่อโดยไม่จำเป็น เพียงเท่านี้ก็ห่างไกลจากอาการปวดตับและมีสุขภาพโดยรวมที่ดีได้ไม่ยาก
ด้วยความปรารถนาดี
Interpharma Thailand
ดูแลตับให้แข็งแรงด้วย ProLivo โภชนเภสัชเพื่อการดูแลตับแบบครบวงจร รวมสารอาหาร สารสกัดจากธรรมชาติ วิตามินและแร่ธาตุมากถึง 20 ชนิด เพื่อบำรุง ปกป้อง และฟื้นฟูการทำงานของตับอย่างครบวงจร
– กรดอะมิโน 14 ชนิด และกรดอะมิโนแบบสายยาว (Branched Chain Amino Acids; BCAA) ที่ช่วยเสริมสร้างการเกิดเซลล์ตับใหม่ ช่วยสร้างโปรตีนและมวลกล้ามเนื้อ
– วิตามินบี 2 จำเป็นต่อเอนไซม์และกระบวนการสร้างของสารอาหารต่าง ๆ มีส่วนช่วยในการบำรุงตับ
– เคอร์คูมินและวิตามินอี เกราะป้องกันตับไม่ให้ถูกทำลาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และลดภาวะ Oxidative Stress ที่เป็นสาเหตุของการทำลายตับ
– อิโนซิทอลและโคลีน เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ตับ ช่วยฟื้นฟูการทำงาน ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี เร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันในตับ และลดคอเลสเตอรอล
– ซิลิเนียม เอนริชส์ ยีสต์ ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูการทำงานของตับ ต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
ProLivo สูตร Triple Action ดูแลตับครบวงจร ช่วยบำรุงและฟื้นฟูการทำงานของตับ ปกป้องตับไม่ให้ถูกทำลายจากแอลกอฮอล์และยา ช่วยลดอาการเมาค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1 กล่องบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 1,800 บาท โปรโมชั่นพิเศษ 2 กล่อง ราคาพิเศษ 3,000 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสามารถสั่งซื้อโดยตรงได้ 3 ช่องทาง ได่แก่
📞Call center : 094-956-9536
💻Inbox : m.me/interpharma.th
📱Line : @interpharma #แอดไลน์ด่วนคลิก https://lin.ee/huxD1c0
🛍Shopee : https://shopee.co.th/interpharma.official