แอลกอฮอล์ ดื่มอย่างไรไม่ให้ตับพัง?
แอลกอฮอล์ ดื่มอย่างไรไม่ให้ตับพัง?
รู้หรือไม่ว่าจากสถิติขององค์การอนามัยโลก มีผู้เสียชีวิตจากโรคตับแข็งทั่วโลกมากถึงปีละ 1.2 ล้านราย ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดโรคตับแข็งนั้นมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินกว่าที่ร่างกายรับไหวจนตับที่เคยมีสุขภาพดีค่อย ๆ เสื่อมลงจนพังในที่สุด เนื่องด้วยตับเป็นอวัยวะที่คอยขับสารพิษออกจากร่างกายต้องทำงานหนักจนเกินไปนั่นเอง
ภาวะตับแข็งจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกิดจากการที่เซลล์ของตับถูกแทนที่ด้วยเนื้อเยื่อพังผืด ทำให้เนื้อเยื่อตับที่ควรจะเรียบกลายเป็นก้อนและแข็งขึ้น แม้ว่าในภาวะปกติตับจะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ แต่การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากสะสมกันไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้ความสามารถดังกล่าวมีประสิทธิภาพลดลงจนส่งผลกระทบต่อการทำงาน
ทั้งนี้ การรับประทานแอลกอฮอล์ก็ใช่ว่าจะมีแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพไปเสียทั้งหมด หากรู้จักเลือกชนิดและจำกัดปริมาณในการดื่ม แอลกอฮอล์ก็ส่งผลดีต่อสุขภาพได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากเครื่องดื่มแต่ละชนิดนั้นล้วนมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่แตกต่างกันออกไป ส่งผลให้มีปริมาณการดื่มที่แตกต่างกันดังนี้
- เบียร์ มีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 5% หรือ 5 ดีกรี
- ไวน์ มีแอลกอฮอล์ประมาณ 10% หรือ 10 ดีกรี
- เหล้าชนิดต่าง ๆ มีแอลกอฮอล์ประมาณ 35 – 40% หรือ 35 – 40 ดีกรี
- ว้อดก้า บรั่นดี วิสกี้ มีแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูง ประมาณ 40 – 50% หรือ 40 – 50 ดีกรี
การจะวัดว่าแอลกอฮอล์แต่ละชนิดนั้นเราสามารถดื่มได้มากน้อยเท่าไหร่ หน่วยมาตรฐานที่เราใช้วัดกันนั้นจะเรียกว่า “ดริ๊งค์” หรือก็คือ 1 แก้วที่มีปริมาณเครื่องดื่มราว 10 – 14 กรัม โดยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิดนั้นก็มีจำนวนดริ๊งค์มาตรฐานที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับดีกรีของแอลกอฮอล์ชนิดนั้น ๆ โดย
- เบียร์ 1 ดริ๊งค์มาตรฐาน = ครึ่งแก้วเบียร์ใหญ่ หรือก็คือ 3 – 4 กระป๋องเล็ก หรือไม่เกิน 200 – 300 cc
- ไวน์ 1 ดริ๊งค์มาตรฐาน = ก้นแก้วไวน์ หรือประมาณ 100 cc
- เหล้า 1 ดริ๊งค์มาตรฐาน = 2 ใน 3 ของแก้วเป๊ก
ทั้งหมดนี้คือปริมาณแอลกอฮอล์ที่เหมาะสมที่ร่างกายคนเราสามารถรับได้ในแต่ละวันและส่งผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งพบว่าการดื่มเบียร์, ไวน์ และเหล้าในปริมาณ 1 ดริ๊งค์มาตรฐาน มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ รวมถึงลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ แต่หากดื่มมากกว่านั้นก็จะเริ่มส่งผลกระทบต่อร่างกาย สร้างภาระให้ตับในการขับออก ยิ่งมากก็ยิ่งเมา ตับก็ยิ่งทำงานหนัก และยิ่งดื่มในปริมาณมากติดต่อกันทุกวัน ตับก็ยิ่งถูกทำลายได้เร็วมากเท่านั้น
จำไว้ว่า 1 ดริ๊งค์มาตรฐาน คือตัวเลขที่เหมาะสมสำหรับการดื่มในแต่ละวัน หากเป็นไปได้ควรเลือกดื่มไวน์มากกว่าเบียร์หรือเหล้า เนื่องจากเป็นแอลกอฮอล์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า และควรรับประทานอาหารก่อนดื่มแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้แอลกอฮอล์ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเร็วจนเกินไป ลดการสร้างภาระให้กับตับในการขับออก ทำให้ความเสี่ยงในการเป็นโรคตับแข็งลดลงและมีชีวิตที่ยืนยาว
ด้วยความปรารถนาดี
Interpharma Thailand
ดูแลตับให้แข็งแรงด้วย ProLivo โภชนเภสัชเพื่อการดูแลตับแบบครบวงจร รวมสารอาหาร สารสกัดจากธรรมชาติ วิตามินและแร่ธาตุมากถึง 20 ชนิด เพื่อบำรุง ปกป้อง และฟื้นฟูการทำงานของตับอย่างครบวงจร
– กรดอะมิโน 14 ชนิด และกรดอะมิโนแบบสายยาว (Branched Chain Amino Acids; BCAA) ที่ช่วยเสริมสร้างการเกิดเซลล์ตับใหม่ ช่วยสร้างโปรตีนและมวลกล้ามเนื้อ
– วิตามินบี 2 จำเป็นต่อเอนไซม์และกระบวนการสร้างของสารอาหารต่าง ๆ มีส่วนช่วยในการบำรุงตับ
– เคอร์คูมินและวิตามินอี เกราะป้องกันตับไม่ให้ถูกทำลาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และลดภาวะ Oxidative Stress ที่เป็นสาเหตุของการทำลายตับ
– อิโนซิทอลและโคลีน เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ตับ ช่วยฟื้นฟูการทำงาน ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี เร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันในตับ และลดคอเลสเตอรอล
– ซิลิเนียม เอนริชส์ ยีสต์ ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูการทำงานของตับ ต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
ProLivo สูตร Triple Action ดูแลตับครบวงจร ช่วยบำรุงและฟื้นฟูการทำงานของตับ ปกป้องตับไม่ให้ถูกทำลายจากแอลกอฮอล์และยา ช่วยลดอาการเมาค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1 กล่องบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 1,800 บาท โปรโมชั่นพิเศษ 2 กล่อง ราคาพิเศษ 3,000 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสามารถสั่งซื้อโดยตรงได้ 3 ช่องทาง ได่แก่
📞ทาง Call center 094-956-9536
💻Inbox : m.me/interpharma.th
📱Line @interpharma #แอดไลน์ด่วนคลิก https://lin.ee/huxD1c0