5 วิธีดูแล เมื่อน้องหมาเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง - Interpharma Group

5 วิธีดูแล เมื่อน้องหมาเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง

คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง แต่น้องหมาเป็นภูมิแพ้ น้องดูแลตัวเองไม่ได้ เป็นหน้าที่คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องดูแลนะคะ

 

โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่มักทำให้น้องเกิดอาการคันตามเนื้อตามตัวในจุดต่างๆ ตามร่างกาย และอาจลุกลามจนเกิดเป็นโรคผิวหนังอื่นๆ ได้ แน่นอนว่าภูมิแพ้นั้นเป็นโรคที่รักษาไม่หาย แต่เราสามารถบรรเทาอาการให้ทุเลาลงได้ ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้น้องเกิดอาการภูมิแพ้ และเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งมีด้วยกัน 5 วิธีดังนี้ค่ะ

1. ทำความสะอาดบ้านให้สะอาด ปราศจากปรสิต บ้านที่สะอาด น้องหมานั่งนอนที่ไหนก็ปลอดภัย โดยเริ่มต้นจากการกวาดบ้าน ถูบ้าน ดูดฝุ่น โดยเน้นตามซอกต่างๆ เป็นสำคัญ รวมไปถึงที่นอน โซฟา โต๊ะ ตู้ เตียงนอน ก็ควรทำความสะอาดไปพร้อมกันด้วย การถูบ้าน ควรผสมน้ำกับน้ำยาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันไรฝุ่นและฆ่าเชื้อโรคต่างๆ สำหรับบ้านไหนที่มีพรมเช็ดเท้า อย่าลืมนำมาซักทำความสะอาดและดูดฝุ่นออกเป็นประจำ พร้อมพ่นยากำจัดเห็บภายในบ้านทุกสัปดาห์ เน้นตามซอกต่างๆ ที่เห็บมักจะเข้าไปฝังตัวอยู่ เพียงเท่านี้บ้านของเราก็ปลอดภัยสำหรับน้องหมาในระดับหนึ่งแล้วค่ะ

2. หมั่นสังเกตผิวน้องหมาอย่าให้คลาดสายตา โดยเฉพาะน้องหมาที่มีผิวหนังยับย่น เช่นสายพันธุ์ชาเป่ย เฟรนช์บูลด็อก อิงลิชบูลด็อก บ็อกเซอร์ และปั๊ก เนื่องจากผิวหนังที่ยับย่นของน้องหมาสายพันธุ์เหล่านี้ จะเป็นแหล่งในการสะสมความชื้นชั้นดี ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย และพัฒนากลายเป็นโรคผิวหนังในที่สุด นอกจากนี้ผิวหนังในจุดสำคัญๆ บริเวณอื่น เช่น ใบหน้า ริมฝีปาก คอ หาง บริเวณรอบๆ อวัยวะเพศของน้องหมาเพศเมีย ควรสังเกตให้ดีว่ามีผื่น รอยแดง หนอง หรือรอยเกาจากน้องหมาด้วยหรือไม่ หากพบว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ควรพาน้องหมาไปพบคุณหมอทันทีค่ะ

3. ให้น้องหมาได้ทานอาหารดีๆ สุขภาพจากภายในเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งน้องหมาเป็นโรคภูมิแพ้ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะถ้าร่างกายของน้องหมาไม่แข็งแรง ภูมิต้านทานก็จะต่ำ ส่งผลให้อาการภูมิแพ้กำเริบได้ โดยอาจเลือกอาหารเม็ดสำเร็จรูปในสูตรที่เหมาะกับน้องหมาที่มีอาการแพ้ได้ง่าย เช่น สูตร Hypoallergenic, สูตร Sensitive Skin หรืออาจเลือกเป็นอาหารเกรดพรีเมี่ยมก็ได้ และเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของกรดไขมันโอเมก้า-3, โอเมก้า-6, ไบโอติน, วิตามินบี 2, บี 3, บี 6, และวิตามินอี ช่วยลดการอักเสบและอาการผดผื่นที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง ลดการหลุดร่วงของเส้นขน และยังช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นขนใหม่ของน้องหมาให้มีประสิทธิภาพได้ด้วยค่ะ

4. ให้ยาสม่ำเสมอตามที่คุณหมอสั่ง หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่พาน้องหมาไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพและได้รับยาตามที่คุณหมอสั่งจ่ายเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการให้น้องหมาได้ทานยาตามที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัด มีวินัยในการให้น้องหมาได้ทานยาอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะยาในกลุ่มที่เป็นยาฆ่าเชื้อต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาการดื้อยาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต นอกจากนี้แล้วควรพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้คุณหมอได้ตรวจร่างกาย และสามารถคาดเดาถึงปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถวางแผนในการดูแลน้องหมาได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง

5. ใช้แชมพูสำหรับอาบน้ำน้องหมาโดยเฉพาะ โดยเลือกเป็นสูตรอ่อนโยน เนื่องจากน้องหมาที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนังนั้นมีผิวที่บอบบางกว่าน้องหมาที่สุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ แชมพูสูตรอ่อนโยน หรือสูตร Hypoallergenic จึงเป็นตัวเลือกที่คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกใช้ในกรณีนี้ ซึ่งแชมพูสูตรอ่อนโยนนั้นสามารถที่จะกำจัดสารก่อภูมิแพ้ และสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคต่างๆ ที่ปนเปื้อนอยู่ตามร่างกายของน้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ทั้งยังช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวของน้องหมาได้อีกด้วยค่ะ

โรคภูมิแพ้ในคนนั้นแย่เพียงใด สำหรับน้องหมาเองก็ไม่ได้ต่างกัน แค่น้องไม่สามารถบอกเราตรงๆ ได้ว่าน้องเป็นอะไร หรือน้องรู้สึกแย่แค่ไหนที่เป็นแบบนี้ การสังเกตที่อยู่ในสายตาของคุณพ่อคุณแม่อย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยน้องหมาได้ แม้ว่าภูมิแพ้จะเป็นโรคที่รักษาไม่หายก็จริง แต่เราสามารถทำให้อาการทุเลาลงได้ หรือมีโอกาสเกิดได้น้อยลง เพียงแค่เราดูแลน้องให้ดี ก็ถือเป็นการช่วยน้องหมาได้เยอะแล้วล่ะค่ะ

 

ด้วยความปรารถนาดีต่อเพื่อนตัวน้อย

Intervetta Thailand

 

ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีปัญหาสุขภาพของน้องหมาน้องแมว ต้องการคำปรึกษา อย่าเขินอายทักมาหาเราได้นะคะ ==> https://line.me/R/ti/p/%40intervetta

ข้อมูลอ้างอิง : dogilike


Aloveen Shampoo and Conditioner