5 สารก่อภูมิแพ้ “ต้องระวัง” ไม่ให้ลูกน้อยได้สัมผัส - Interpharma Group

5 สารก่อภูมิแพ้ “ต้องระวัง” ไม่ให้ลูกน้อยได้สัมผัส

5 สารก่อภูมิแพ้ ต้องระวัง ไม่ให้ลูกน้อยได้สัมผัส

อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจัยที่ทำให้เป็นภูมิแพ้นั้นนอกจากในเรื่องของกรรมพันธุ์จากพ่อแม่แล้ว ยังมีปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวข้องอย่าง “สารก่อภูมิแพ้” อีกด้วย ซึ่งผู้ที่เป็นภูมิแพ้มักมีความไวต่อสารเหล่านี้มากกว่าคนทั่วไป ทำให้ร่างกายแสดงปฏิกิริยาแพ้ต่อสารเหล่านี้ผ่านอาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ผื่นภูมิแพ้ ระคายเคืองผิว มีลมพิษขึ้น แสบตา ตาแดง ไปจนถึงคลื่นไส้อาเจียน ท้องร่วง ท้องเสียในบางราย


ในเด็กที่ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจ เพราะการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ นอกจากจะทำให้อาการภูมิแพ้แสดงออกมาแล้ว ในเด็กที่แพ้รุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย ซึ่งสารก่อภูมิแพ้ที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวังและป้องกันไม่ให้ลูกน้อยได้สัมผัสมีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภทใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้


1. อาหาร
เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่ทำอันตรายต่อผู้คนได้โดยไม่รู้ตัว เพราะน้อยคนมากที่จะรู้ว่าตัวเองแพ้อะไรจนกว่าจะได้รับประทานเข้าไปแล้วมีอาการแสดงออกมา ซึ่งโดยส่วนใหญ่อาหารที่มักเป็นสารก่อภูมิแพ้ ได้แก่

  • ไข่ รวมไปถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของไข่
  • น้ำตาลแลคโตส (Lactose) ที่อยู่ในอาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมวัวต่าง ๆ เช่น นม, โยเกิร์ต, เนย, ชีส ฯลฯ รวมไปถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของนม เช่น ชานม กาแฟ ครีมเทียม มาการีน ไอศกรีม เป็นต้น
  • ถั่ว เช่น ถั่วลิสง (Peanut), ถั่วเหลือง (Soy)
  • ถั่วเปลือกแข็ง (Tree nut) เช่น วอลนัท พีแคน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากถั่ว เช่น ขนมปังธัญพืช, ขนมปังแครกเกอร์
  • ข้าวสาลี (Wheat)
  • อาหารทะเลชนิดต่าง ๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลาหมึก เป็นต้น

2. ไรฝุ่น รวมไปถึงละอองฝุ่น สิ่งสกปรกในอากาศ ควันบุหรี่ ควันรถยนต์ เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่มีอยู่ในทุกที่ทั้งในและนอกบ้าน โดยเฉพาะในบ้านที่สามารถพบได้บ่อยและมีโอกาสสัมผัสได้มากที่สุด เนื่องจากสังเกตเห็นได้ยาก ซึ่งมักพบได้จากผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม พรม โซฟา ตุ๊กตา ฯลฯ ส่งผลให้เกิดโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ จึงควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้มีฝุ่นสะสมอยู่ตามข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้


3. เชื้อรา
เป็นอีกหนึ่งประเภทของสารก่อภูมิแพ้ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยสปอร์ของเชื้อรามีขนาดเล็กประมาณ 2 – 5 ไมครอน สามารถปลิวกระจายได้ไกลและเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ถึงหลอดลมฝอย ส่งผลให้เกิดอาการภูมิแพ้ตามมา ในประเทศไทยที่มีอาการร้อนชื้น เชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้ง่าย โดยเฉพาะในบริเวณที่อับชื้นหรือในฤดูฝน ควรป้องกันด้วยการทำให้อากาศในบ้านถ่ายเทอยู่เสมอ ตรวจสอบจุดน้ำขังภายในบ้านเพื่อลดความชื้นที่เป็นแหล่งของเชื้อรา


4. เกสรดอกไม้
เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ ละอองจะมีอนุภาคขนาดเล็ก สามารถปลิวไปได้หลายกิโลเมตร ทำให้เกิดอาการในผู้ที่แพ้ได้แม้จะไม่ได้ปลูกต้นไม้หรือหญ้าไว้ในบ้านก็ตาม สามารถป้องกันได้โดยการเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำให้สะอาดหลังกลับจากสถานที่หรือบริเวณที่มีละอองเกสรพืชหรือหญ้า ในรายที่แพ้มากอาจใช้วิธีล้างจมูกด้วยน้ำเกลือร่วมด้วย


5. ขนสัตว์
ที่ทำให้เกิดอาการแพ้บ่อย ๆ มักจะมาจากสุนัขและแมว รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ที่มีขนอย่างกระต่าย หนูตะเภา แฮมสเตอร์ เป็นต้น ซึ่งมีที่มาจากรังแค ขน และน้ำลาย สำหรับบ้านใครที่มีสัตว์เลี้ยง ควรอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ ทำความสะอาดบ้านทุกวัน โดยเฉพาะบ้านที่มีพรม หรืออาจเลือกใช้เครื่องกรองอากาศเพื่อช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ได้บ้าง


ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของสารก่อภูมิแพ้ที่เราสามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ยังมีสารก่อภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ ที่อยู่นอกเหนือรายการเหล่านี้อีก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของลูกน้อยอยู่สม่ำเสมอเพื่อให้ทราบว่าลูกน้อยแพ้อะไร และพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกน้อยได้สัมผัสสิ่งเหล่านั้น


ที่สำคัญ การดูแลสุขภาพของลูกน้อยให้แข็งแรงก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เช่นกัน ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยป้องกันลูกน้อยจากภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลในระยะยาว


ด้วยความปรารถนาดี
Interpharma Thailand

Pobiota BL นวัตกรรมโปรไบโอติกแบคทีเรีย จาก “ประเทศฝรั่งเศส” ซึ่งเป็นโภชนเภสัชที่มีหลักฐานการวิจัยทางการแพทย์ว่า “ช่วยเรื่องภูมิแพ้และเพิ่มภูมิคุ้มกัน” เป็นสูตรซินไบโอติก ที่มีโปรไบโอติกแบคทีเรียสายพันธุ์ Bifidobacterium lactis (B. lactis B94) โปรไบโอติกสำหรับสุขภาพเด็กและทุกคนในครอบครัว


โดยงานวิจัยพบว่า บิฟิโดแบ็คทีเรียม อะนิมอลิส แล็กติส (B.Lactis) ช่วยลด IgE 88% และ Eosinophil 74% ซึ่งเป็นสารบ่งบอกการเกิดภูมิแพ้ ดังนั้น B.Lactis B94 จึงมีส่วนช่วยในการลดการเกิดภูมิแพ้ได้ และยังได้รับการยอมรับโดยผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขประเทศแคนาดาว่า “เป็นจุลินทรีย์ที่ส่งเสริมทำให้ลำไส้ดีทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่”


PROBIOTA BL มีประโยชน์อย่างไร
✅ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
✅ ป้องกันภูมิแพ้ผิวหนัง ผื่นแพ้ รวมถึงอาการแพ้อาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
✅ ลดอัตราการเกิดลำไส้เน่าในเด็กคลอดก่อนกำหนด
✅ ป้องกันอาการท้องผูก ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น
✅ ลดอาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด แน่น เรอ
✅ ลดระยะเวลาท้องเสียให้หายเร็วขึ้นภายใน 3 วัน
✅ ลดอาการท้องเสียจากการติดเชื้อโรต้าไวรัส, Salmonella, Shigella และ Clostridium

Probiota BL สูตรซินไบโอติก ประกอบด้วยโปรไบโอติกแบคทีเรียชนิด Bifidobacterium lactis 5×10 9 CFU และพรีไบโอติกอินูลิน 900 มิลลิกรัม


PROBIOTA BL เหมาะกับใคร? สำหรับเด็กแรกเกิดถึงอายุ 12 ปี รับประทานวันละ 1 ซอง และอายุ 12 ปีขึ้นไป รับประทานวันละ 1 – 2 ซอง 1 กล่องบรรจุ 30 ซอง ราคากล่องละ 2,400 บาท โปรโมชั่นพิเศษ‼ ซื้อ 2 กล่องราคาพิเศษเพียง 4,200 บาท (ปกติ 4,800 บาท)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสามารถสั่งซื้อโดยตรงได้ 3 ช่องทาง ได้แก่
📞ทาง Call center 094-956-9536
💻Inbox : m.me/interpharma.th
📱Line @interpharma #แอดไลน์ด่วนคลิก https://lin.ee/huxD1c0