OMEGA 3 สู้หลอดเลือดตีบ - Interpharma Group

OMEGA 3 สู้หลอดเลือดตีบ

OMEGA 3 สู้หลอดเลือดตีบ

OMEGA 3 สู้หลอดเลือดตีบ

ตัวเลขทางสถิติจากกระทรวงสาธารณสุข (16 กันยายน 2561) พบว่า มีจำนวนคนไทยที่ป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด 432,943 คน มีอัตราการเสียชีวิตถึง 20,855 คนต่อปี หรือชั่วโมงละ 2 คน

โรคหลอดเลือดตีบ คือ เกิดจากไขมันและเนื้อเยื่อสะสมในผนังของหลอดเลือด ทำให้เยื่อบุผนังหลอดเลือดชั้นในตำแหน่งนั้นหนาตัวขึ้น หลอดเลือดจึงตีบแคบลง ทำให้เลือดซึ่งนำออกซิเจนไหลผ่านได้น้อยลง ส่งผลให้เลือดไหลไปเลี้ยงได้ไม่เพียงพอ ถ้าเกิดในจุดที่เป็นอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจและสมอง จะทำให้อวัยวะนั้นๆ ล้มเหลว เช่น โรคหัวใจล้มเหลว, โรคสมองขาดเลือด ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิตหรือทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้

การป้องกันโรคหลอดเลือดตีบ ทำได้โดยหมั่นตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำ เพื่อค้นหาสัญญาณของหลอดเลือดตีบ เช่น ค่าความดันโลหิตสูง ค่าคอเลสเตอรอล เป็นต้น นอกจากนี้ต้องไม่ลืมควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น อาหาร สูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ การออกกำลังกาย ความเครียด การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

นอกจากนี้ยังแนะนำให้ทานกรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญของร่างกาย ช่วยป้องกันโรคหัวใจและสมองขาดเลือดได้ เพราะโอเมก้า-3 จะช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและลดไขมันในเลือด จึงช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ที่สำคัญ

โอเมก้า 3 ที่พบนั้น ส่วนมากมาจาก 2 แหล่งคือ Fish oil (น้ำมันปลา) คือน้ำมันที่สกัดจากปลาทะเล แต่ที่มาแรงและกำลังได้รับความนิยม มากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ Krill Oil (น้ำมันคริลล์) เป็นน้ำมันที่สกัดได้จากตัวคริลล์ ซึ่งเป็นต้นตอของห่วงโซ่อาหารของโลก ในส่วนของน้ำมันสองตัวนี้จะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ( โอเมก้า 3 ประกอบด้วย DHA บำรุงสมองและจอประสาทตา และ EPA ช่วยลดการอักเสบระดับเซลล์ และควบคุมระดับไขมันในร่างกาย ) แต่จะแตกต่างกันตรงที่

1) Krill Oil มีคุณค่ามากกว่า Fish Oil ตรงที่ โอเมก้า 3 ของ Krill oil อยู่ในรูปของฟอสโฟไลปิด (Phospholipids) สามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์ร่างกายได้ดีกว่า โดยเฉพาะเซลล์สมอง ในขณะที่ Omega-3 ของน้ำมันปลา จะอยู่ในรูปของ Triglyceride

2)  Krill oil อุดมด้วยสารแอสต้าแซนทิน (Astaxanthin) ซึ่งเป็นสารสีส้มแดง มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพกว่า วิตามิน อี 550 เท่า

3) ไม่เสี่ยงต่อโลหะหนัก เพราะ Krill อาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึก และ Pure. Krill Oil ที่มีคุณภาพสูงจะมาจาก มหาสมุทร Antartic ซึ้งไม่มีเรือเดินสมุทรพาณิชย์ ในขณะที่ น้ำมันปลา อาจมีความเสี่ยงปนเปื้อนโลหะหนัก

ด้วยความปรารถนาดี

Interpharma Thailand

อ้างอิงข้อมูลจาก : ไทยรัฐ, posttoday, pobpad, bumrungrad

Pure Krill Oil

เพียวคริลล์ออยด์

สำหรับสุขภาพต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ Pure Krill Oil น้ำมัน Omega 3 ประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยโครงสร้างโมเลกุลแบบ Phospholipids