ฝ้า – กระ มาจากไหน? ดูแลอย่างไรไม่ให้มาเยือน?
ฝ้า – กระ มาจากไหน? ดูแลอย่างไรไม่ให้มาเยือน?
ขึ้นชื่อว่าใบหน้า ไม่ว่าใครก็ล้วนอยากให้เนียนใสไร้ตำหนิ แต่ความเป็นจริงมักไม่เป็นอย่างนั้น เพราะด้วยหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในหรือปัจจัยภายนอก ล้วนโน้มนำให้เกิดปัญหากับผิวหน้าได้ทั้งสิ้น สำหรับสาว ๆ แล้วเรื่องริ้วรอยแห่งวัยอาจเป็นปัญหาใหญ่ที่ให้ความใส่ใจ จนลืมไปว่าฝ้าและกระ ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ใหญ่และแก้ยากไม่แพ้กัน
ทั้งนี้เมื่อพูดถึงฝ้าและกระ หลายคนอาจยังสับสนอยู่ว่าปัญหาผิวทั้ง 2 ชนิดนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนเรียกว่าฝ้า แล้วแบบไหนเรียกว่ากระ?
เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย เราอาจใช้การสังเกตถึงปัญหาของผิวที่เกิดขึ้น โดย “กระ” จะมีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ กลม ๆ มีขอบชัดเจน กระจายทั่วใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้มและหน้าผาก ในขณะที่ “ฝ้า” จะมีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้ม เป็นกระจุกรวมกัน พบได้บ่อยในบริเวณโหนกแก้ม เหนือริมฝีปาก คาง และหน้าผาก
แม้ปัญหาผิวทั้งสองจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน แต่หนึ่งในจุดร่วมที่เหมือนกันก็คือสาเหตุของปัญหา โดยทั้งฝ้าและกระนั้นมีที่มาจากการได้รับรังสี UVA และ UVB ที่เข้ามาทำร้ายผิวโดยตรงเป็นเวลานาน ๆ จนทำให้เซลล์เมนาโลไซต์ (Melanocytes) ผลิตเมลานินออกมามากเกินความจำเป็น จนทำให้เกิดจุดกระและรอยฝ้าขึ้นบนใบหน้า นอกจากนี้ยังอาจเกิดได้จากความผิดปกติของฮอร์โมนภายในร่างกาย รวมถึงการแพ้เครื่องสำอางได้อีกด้วยเช่นกัน
เราจะป้องกันการเกิดฝ้า – กระ ได้อย่างไร?
อย่างที่ได้กล่าวไปว่ารังสี UVA และ UVB คือตัวการสำคัญของการเกิดฝ้า – กระ การหลีกเลี่ยงการเผชิญกับรังสี UVA และ UVB จึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมกันแดด สวมหมวก ใช้ผ้าคลุมหรือร่ม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวต้องพบกับแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10:00 – 16:00 น. ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่แดดแรงมากที่สุด
นอกจากนี้ ยังอาจหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือฮอร์โมนที่เป็นต้นเหตุให้เกิดฝ้า เช่นยาคุมกำเนิด อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนยาคุมกำเนิด (ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนการเปลี่ยนยา) รวมถึงหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีผลทำให้เกิดฝ้าด้วยเช่นกัน
หรืออาจเลือกรับประทานจุลินทรีย์โปรไบโอติกเป็นประจำ ซึ่งในปัจจุบันได้มีงานวิจัยค้นพบว่าสามารถลดความรุนแรงของฝ้าได้ทั้งขนาดและความเข้มถึง 4 กลไก* ประกอบด้วย การยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Tyrosinase Inhibition), การต้านกระบวนการอักเสบ (Anti-inflammatory Effect), ปกป้องผิวจากผลกระทบจากรังสียูวีต่อผิวหนัง (ลด UV Effect ต่อผิวหนัง) และการต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidative Effect) ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและได้ผลดีเช่นเดียวกัน
ด้วยความปรารถนาดี
Interpharma Thailand
*Piyanat Piyavatin, et al. (2021) Synbiotics supplement is effective for Melasma improvement. Journal of Cosmetic Dermatology
อีกหนึ่งนวัตกรรมที่จะช่วยลดความเข้มและชะลอการเกิดฝ้าได้อย่างเห็นผลจากการรับประทานอย่างต่อเนื่อง คือ โปรไบโอติกที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์โภชนเภสัช TS6 ภายใต้แบรนด์ Interpharma หากทานอย่างต่อเนื่องนั้นสามารถลดความรุนแรงของฝ้าได้ทั้งขนาด และความเข้ม อย่างมีนัยยะสำคัญเมื่อเทียบกับยาหลอก
ได้ผลถึง 4 กลไกการยับยั้งฝ้าคุณสมบัติเฉพาะของ TS6 ประกอบด้วย 1.การยับยั้งกระบวนการ การสร้างเม็ดสีเมลานิน (Tyrosinase inhibition) 2.การต้านกระบวนการอักเสบ(anti inflammatory effect) 3.การปกป้องผิวจากผลกระทบ
จากรังสียูวีต่อผิวหนัง และ 4.การต้านอนุมูลอิสระ (antioxidative effect)
งานวิจัยรองรับว่าการรับประทาน TS6 วันละ 1 ซอง ซึ่งเป็นสูตรซินไบโอติก สามารถเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ TS6 วันละ 1 ซอง สามารถลดผื่นแดงได้อย่างเห็นผลตั้งแต่เดือนแรก, ลดกระให้ดูจางลง หากทานติดต่อกันในระยะเวลา 2 เดือน และยังสามารถลดฝ้าได้อย่างเห็นผลเมื่อรับประทานต่อเนื่องกันเป็นเวลา 3 เดือน
นอกจากนี้ TS6 Probiotics โปรไบโอติกที่ประกอบด้วยแบคทีเรียมีชีวิต 6 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียท้องถิ่นที่มีอยู่ในร่างกาย และมีหลักฐานทางการแพทย์ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย ยังมีส่วนช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดปัญหาระบบขับถ่าย ท้องผูก ท้องผูกเรื้อรังได้อีกทางหนึ่งด้วย เนื่องจาก TS6 เป็นซินไบโอติก ที่เป็นการรวมระหว่างโปรไบโอติก 6 สายพันธุ์ และพรีไบโอติก 1 ชนิด ประกอบกับใน 1 ซองมีปริมาณเชื้อ 75,000 ล้าน CFU จากเดิมมีปริมาณเชื้อแค่ 50,000 ล้าน CFU เท่านั้น
TS6 สูตรฝ้า บรรจุ 10 ซอง ปกติราคากล่องละ 900 บาท โปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 2 กล่อง ฟรีทันที 1 กล่อง (กล่อง 10 ซอง) ราคา 1,800 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสามารถสั่งซื้อโดยตรงได้ 3 ช่องทาง ได้แก่
📞ทาง Call center 094-956-9536
💻Inbox : m.me/interpharma.th
📱Line @interpharma #แอดไลน์ด่วนคลิก https://lin.ee/huxD1c0